ซุ้มนิทรรศการของประเทศญี่ปุ่น ในงาน Expo 2020 ณ ประเทศดูไบ

ในงาน Expo 2020 ณ ประเทศดูไบ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 - 31 มีนาคม 2565 ซุ้มนิทรรศการของประเทศญี่ปุ่น (Japan Pavilion) แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับเทคโนโลยี

Scroll down

สถานที่ตั้ง: Expo Dubai 2020

Product(s) supplied: PT-RZ21K PT-RCQ10 PT-VMZ60 ET-D3LEU100 ET-D3LEF70 ET-DLE020 ET-DLE060

วัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลมาจากประเทศเพื่อนบ้าน และนำมาตีความใหม่ทั้งหมด และปรับจนกลายเป็นวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซุ้มนิทรรศการของประเทศญี่ปุ่น ในงาน Expo 2020 ณ ประเทศดูไบนำเสนอความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและเทคโนโลยี เพื่อแสดงให้เห็นว่าการแลกเปลี่ยนไอเดียที่สร้างสรรค์นั้น สามารถสร้างอนาคตที่ดีขึ้นได้ โดยผู้เข้าชมงานสามารถใช้สมาร์ทโฟนในการบันทึกส่วนต่างๆภายในงานที่รับชมไปแล้วได้ รวมถึง "อาณาจักรแห่งหมอก" ที่นำเสนอโดยโปรเจคเตอร์พานาโซนิค ร่วมกับเทคโนโลยีการสร้างหมอก Silky Fine Mist ซึ่งจะสร้างฉากจบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในแต่ละช่วงเวลาของวัน

"เราให้คุณค่ากับสิ่งที่ผู้ชมแต่ละท่านสนใจ และรวบรวมมันเพื่อสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาสำหรับผู้ชมคนนั้นๆ"

Isao Ando รองกรรมการฝ่ายบริหารของซุ้มนิทรรศการของประเทศญี่ปุ่นในงาน Expo 2020 ณ ประเทศดูไบ กล่าวว่า "พวกเราทำงานกันอย่างหนัก กว่าจะจัดแสดงงานที่สัมพันธ์กับหัวข้อของงาน Expo นี้ ซึ่งก็คือ 'เชื่อมต่อจิตวิญญาณเพื่อสร้างอนาคต' ได้อย่างไร" จนเรามาได้หัวข้อภายใต้ชื่อ 'Where Ideas Meet' (แหล่งรวมไอเดีย) ไอเดียใหม่ๆจะเกิดขึ้นได้จากการเผชิญกับปัญหาต่างๆ และไอเดียที่ดี เมื่อรวมกับมุมมองที่ดีและความคิดที่หลากหลาย จะช่วยเสริมกำลังให้กับวิธีการแก้ปัญหา

"เราสร้างฉากจำลองขึ้นมา 6 ซีน เพื่อให้ผู้เข้าชมได้พบกับไอเดียต่างๆ ในซีนแรก ผู้ชมที่ยังไม่ค่อยรู้จักประเทศญี่ปุ่น จะได้เห็นภาพโดยรวมของประเทศ ในขณะที่ซีนที่ 2 และ 3 จะกล่าวถึงประวัติศาสตร์ของประเทศ และ เห็นการเดินทางของไอเดียต่างๆที่เข้ามาในเกาะญี่ปุ่น เมื่อมาถึงซีนที่ 4 ผู้ชมจะได้เห็นจุดเปลี่ยนที่กล่าวถึงปัญหาต่างๆที่เรากำลังเผชิญอยู่ ไม่ใช่เพียงแค่ในญี่ปุ่น แต่เป็นปัญหาของทั้งโลกใบนี้

"และในซีนสุดท้าย ซีนที่ 5 เราจะแสดงให้เห็นว่ามนุษย์จะสามารถแก้ปัญหาต่างๆเหล่านั้นได้อย่างไร เป้าหมายของเราคือ ให้ผู้ชมทุกคนเห็นถึงความสำคัญในการแลกเปลี่ยนไอเดียต่างๆ ซึ่งจะช่วยสร้างอนาคตที่ดีให้แก่สังคมปัจจุบันได้"

Takayuki Nagatomo โปรดิวเซอร์การจัดงานจากบริษัท DENTSU LIVE ที่ดูแลในส่วนการออกแบบของซุ้มนิทรรศการของประเทศญี่ปุ่นเห็นด้วยกับเรื่องนี้ว่า

"เราให้ความสำคัญกับค่านิยม และสิ่งที่ผู้ชมแต่ละรายให้ความสนใจ เราอยากรู้ว่าเมื่อรวบรวมสิ่งเหล่านั้นเข้าด้วยกันจะสามารถสร้างอะไรใหม่ๆได้อย่างไร เราใช้เทคโนโลยีหลายชนิดในการสร้างสิ่งต่างๆให้ผู้ชมได้รับความสนุกสนานร่วมกันไปด้วย โดยในงานนี้เองเราได้ใช้เทคนิคโปรดักชั่นหลายๆแบบเพื่อเข้ามามีส่วนช่วยทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์การจัดงานครั้งถัดไป คือ World Expo 2025 ที่โอซาก้า

ทำไมเราถึงเลือก พานาโซนิค?

ศักยภาพที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้ว

ในห้องฉายภาพแบบ 360 องศา ผู้เข้าชมจะได้รับชมวิดีโอที่ฉายบนจอที่เป็นผ้าม่าน พร้อมกับสายหมอกที่สร้างขึ้น โดยมีจอภาพลูกทรงกลมใจกลางห้อง ห้องนี้ถูกเรียกว่าห้องอินฟินิตี้ (infinity foom) ที่ใช้กระจกสะท้อน การตั้งมุมแสง และ การฉายภาพผ่านจอโปรเจคเตอร์ ประสบการณ์ที่แสนประทับใจนี้สร้างขึ้นด้วยฝีมือของบริษัท TENSEISHA บริษัทที่เป็นผู้รับผิดชอบในส่วนการติดตั้งอุปกรณ์ ซึ่งได้เลือกใช้โปรเจคเตอร์ของพานาโซนิครุ่น 3-Chip DLP™ และ 1-Chip DLP™ และรุ่น PT-VMZ60LCD สำหรับการฉายภาพบนพื้นห้องอินฟินิตี้

โปรเจคเตอร์รุ่น PT-RCQ10 ติดตั้งเลนส์ฉายภาพระยะใกล้ ET-DLE020 Ultra Short Throw ประมาณ 8 เครื่องจะถูกติดตั้งด้วยอุปกรณ์ป้องกันไอหมอกสำหรับฉายภาพในซีนที่ 4

Isami Kobayashi ผู้จัดการระบบประจำงานกล่าวว่า ความทนทานเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุด ที่ทำให้ทางซุ้มนิทรรศการของประเทศเลือกใช้โปรเจคเตอร์ของพานาโซนิคในการจัดการแสดง "งาน expo นี้มีระยะเวลาจัดงานยาวนานถึง 6 เดือน ซึ่งนั่นยังไม่รวมถึงการปรับตั้งค่าเป็นระยะเวลา 1 เดือน เพื่อเตรียมงานก่อนจัดแสดงอีก ดังนั้นโปรเจคเตอร์ทุกตัวจะถูกเปิดใช้งานเพื่อการแสดงยาวนานถึง 7 เดือน" โดย Mr. Kobayashi กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การเลือกใช้โปรเจคเตอร์จะประกอบไปด้วยหลักเกณฑ์ที่สำคัญ 3 ประการ "อันดับแรกคือ ตัวเครื่องจะต้องมีความเสถียรในการใช้งานติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อย่างที่สองคือความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่อาจจะไม่เอื้ออำนวยต่อการใช้งาน และประการสุดท้ายคือ ระบบการดูแลบำรุงรักษาจะต้องมีรองรับให้กับทีมงานในประเทศที่เราจัดงาน"

คุณ Nagatomo กล่าวว่า ความไว้วางใจได้นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก "เราได้ทำงานร่วมกันกับพานาโซนิคมาเป็นระยะเวลานาน และเราได้พิสูจน์คุณภาพของตัวผลิตภัณฑ์ในการจัดงานใหญ่มาแล้วในหลายๆประเทศทั่วโลก ในส่วนของประสิทธิภาพนั้น ไม่จำเป็นต้องอธิบายเป็นคำพูดเลยว่าสูงขนาดไหน"

การแสดงสีที่สดใส และแม่นยำไม่ผิดเพี้ยน

Mr. Kobayashi ยังกล่าวต่อไปว่า การแสดงสีได้สดใสสวยงามนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการเลือกใช้โปรเจคเตอร์ "ทุกๆคนยอมรับในส่วนของสีแดงที่โปรเจคเตอร์ PT-RCQ10 ฉายออกมานั้นเป็นสีแดงที่ดีที่สุดในบรรดาตัวเลือกทั้งหลายที่เรามี เนื่องจากสีแดง เป็นสีที่สำคัญมากที่สุดในซีน 1 และ ซีน 5 ของงานนี้ ผมมีความสุขมากที่เราเลือก RCQ10 ที่สร้างสีแดงได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้!"

อุปกรณ์เสริมสามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดาย

อีกเหตุผลหนึ่งที่เราเลือกพานาโซนิคก็คือ ตัวเครื่องโปรเจคเตอร์รองรับการติดตั้งทั้งเลนส์ ET-DLE020 Ultra Short Throw และ เลนส์ Fisheye ET-D3LEF70

Yusuke Yamanaka จากบริษัท TANSEISHA อธิบายว่า "ระยะระหว่างเครื่องโปรเจคเตอร์และจอภาพจำเป็นที่จะต้องอยู่ใกล้กันมาก" "ซึ่งข้อได้เปรียบของเลนส์ ET-DLE020 คือไม่ได้มีเพียงความสามารถในการฉายภาพระยะใกล้เท่านั้น แต่ยังสามารถซูมและปรับเปลี่ยนการตั้งค่าเพื่อให้ได้ภาพที่กลมกลืนเหมาะสมกับการใช้งาน มันยอดเยี่ยมมากๆ จริงๆ แล้วการออกแบบงานในระดับนี้เกิดขึ้นได้จากการทำความเข้าใจกันกับทีมวิศวกรของพานาโซนิค ผมคิดว่างานนี้ประสบความสำเร็จได้เพราะเลนส์พวกนี้เลย"

ด้วยองค์ประกอบที่ใช้ร่วมกัน ทั้งกระจกเงา การจัดแสง การจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ และเครื่องโปรเจคเตอร์พานาโซนิค ทีมออกแบบของเราจึงสามารถสร้างห้องอินฟินิตี้ (infinity room) นี้สำเร็จได้อย่างงดงาม

เลนส์ Fisheye รุ่น ET-D3LEF70 จำนวน 2 ตัว ใช้เพื่อฉายภาพบนจอภาพรูปทรงกลมขนาดใหญ่

Mr. Yamanaka พูดถึงความยืดหยุ่นในการทำงานของเลนส์ รวมถึงความสามารถในการสร้างภาพที่กลมกลืนและครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ ช่วยให้สามารถปรับตั้งค่าต่างๆของภาพได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้จะไม่เคยมีประสบการณ์การใช้งานเลนส์ Fisheye รุ่น ET-D3LEF70 กับโปรเจคเตอร์รุ่น PT-RZ21K ในการฉายภาพบนจอภาพทรงกลมขนาดใหญ่ใจกลางห้องมาก่อนก็ตาม

"เพียงแค่ใช้เครื่องโปรเจคเตอร์สองเครื่องและเลนส์ Fisheye ก็ยืนยันได้แล้วว่าเราสามารถฉายภาพครอบคลุมทุกพื้นที่บนจอภาพได้โดยสมบูรณ์ สำหรับมุมมองของผู้เข้าชม" สิ่งที่เราทำได้จากเลนส์ตัวนี้ จึงเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก หัวใจสำคัญของเทคนิคในงานแสดงภาพและเสียง สำหรับงาน Expo 2020 Dubai หรือไม่ว่าจะเป็นงานไหนก็ตาม คือ การแสดงภาพในขนาดใหญ่ให้มีความกลมกลืนที่สุด ประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของอุปกรณ์เป็นสิ่งที่สำคัญมากจริงๆ

"แต่สำหรับเรา ในฐานะผู้ติดตั้งอุปกรณ์ สิ่งที่สำคัญที่สุดของระบบคือความสามารถในการทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการทำงาน"

ประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือนผ่านการผสมผสานกันระหว่างการฉายภาพดิจิตอลและม่านหมอก

ทีมออกแบบใช้เครื่องผลิตหมอกสร้างบรรยากาศควบคู่ไปกับการฉายภาพดิจิตอล เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่สมจริง

"เราตัดสินใจใช้เครื่องผลิตหมอกของพานาโซนิคชื่อ Silky Fine Mist" Mr. Nakatomo อธิบาย "เราท้าทายตัวเองด้วยความตั้งใจที่จะให้ผู้ชมได้เห็นภาพของโลกที่สวยงามในแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน และในที่สุดเราก็สามารถสร้างสิ่งที่ผู้ชมจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์เพียงหนึ่งเดียวที่นี่ ภายใต้ความชื้นและอุณหภูมิที่จำกัดเฉพาะภายในห้อง ผมคิดว่ามันเป็นบรรยากาศที่ดีมาก"

Yuji Hasegawa ผู้จัดการงานแสดงอธิบายว่า "เราจะต้องสร้างกล่องที่สามารถป้องกันการควบแน่นได้ กล่องนี้จะต้องช่วยให้เครื่องโปรเจคเตอร์สามารถทำงานได้ปกติและเสถียรตลอดเวลา"

การที่เราสามารถเอาชนะปัญหาความชื้นและการควบแน่นนี้ได้ ทำให้การแสดงของเรามีบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถสร้างอารมณ์ร่วมให้กับผู้เข้าชมได้อย่างยอดเยี่ยม

เสียงของผู้เข้าชม: เกี่ยวกับงานต่อไปใน Expo 2025 ที่โอซาก้า

Mr. Nagatomo กล่าวในการประชาสัมพันธ์ของงานว่า "ผมมีความสุขมากที่ได้ยินผู้ชมหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการจัดการ Japan Pavilion น่าสนใจมากที่สุดในบรรดานิทรรศการในงานทั้งหมด และพวกเขาก็ตั้งหน้าตั้งตารอชมงานต่อไปของเราใน World Expo ที่โอซาก้า" "ผมได้ยินหลายๆคนอธิบายงานนิทรรศการของเราโดยใช้คำว่า 'ยอดเยี่ยม' และ 'อัศจรรย์' และยังพูดอีกว่า ทีมงานสร้างมีมุมมองที่สร้างสรรค์มาก เราขอขอบคุณทุกๆคนที่มีส่วนร่วมทำให้งานนี้เป็นจริงขึ้นมาได้"

Bureau International des Expositions (BIE) ได้มอบรางวัล Gold Award สำหรับการออกแบบงานแสดงนิทรรศการศิลปะและวัฒนธรรมในระดับ A (พื้นที่มากกว่า 2,500 ตารางเมตร) ให้แก่ Japan Pavilion (Exhibition Design in Self-built Pavilions Category A)

ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมจากการผสานกันระหว่างเครื่องสร้างหมอก Silky Fine Mist และ โปรเจคเตอร์พานาโซนิค

ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมจากการผสานกันระหว่างเครื่องสร้างหมอก Silky Fine Mist และ โปรเจคเตอร์พานาโซนิค

ผ้าม่านที่นำมาใช้เป็นจอภาพและหมอกจำลองช่วยสร้างมิติให้กับการฉายภาพดิจิตอลโดยที่ไม่ลดทอนสีที่สวยงามจาก RCQ10

Read more insights…

Sorry there was an error...
The files you selected could not be downloaded as they do not exist.

You selected items.
Continue to select additional items or download selected items together as a zip file.

You selected 1 item.
Continue to select additional items or download the selected item directly.

Download selected file