พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ณ กรุงปราก กับการแสดงภาพในแบบพาโนรามาภายในอาคาร

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก ภายในอาคารมีการจัดแบ่งโซนการแสดงเป็นหลายๆส่วนตั้งแต่เรื่องราวเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ไปจนถึงสังคมศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นสถานที่จัดแสดงที่รวบรวมเอาวัตถุบ่งชี้ต่างๆที่บอกถึงการพัฒนาของธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และย้อนไปถึงเรื่องราวก่อนประวัติศาสตร์ของประเทศ และชาวต่างชาติด้วย

การปรับปรุงอาคารครั้งใหญ่

อาคารประวัติศาสตร์ Historical building ถูกปิดลงเป็นเวลาหลายปีจากการปรับปรุงครั้งใหญ่ จนกระทั่งมีการจัดงานฉลองเปิดใช้อาคารอีกครั้งเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2561 พร้อมๆกันกับการฉลองครบรอบ 100 ปีของประเทศเชโกสโลวาเกีย และ ครบรอบ 200 ปีของพิพิธภัณฑ์

ทางเดินเชื่อมอาคาร

ทางพิพิธภัณฑ์สร้างหลังคาคลุมบริเวณโถงอาคารในระหว่างการก่อสร้าง ส่งผลให้มีพื้นที่ในการจัดแสดงเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันการติดตั้งผนังยาวกว่า 50 เมตรภายในทางเชื่อมใต้ดินทั้งสองอาคาร ระหว่างอาคารหลังใหม่และอาคาร Historical building หลังเดิม ก็ได้สร้างพื้นที่ในการจัดแสดงของพิพิธภัณฑ์ให้เพิ่มมากขึ้น

การจัดแสดงชุด "ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์"

การจัดแสดงในรูปแบบเรื่องราวของท้องถิ่นนี้ใช้ชื่อว่า ช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ ซึ่งใช้เทคนิคการฉายภาพ mapping ด้วยสื่อประสมนี้บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาเป็นไปของพิพิธภัณฑ์ตั้งแต่เหตุการณ์ก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่เรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของจตุรัส Wenceslas Square ในกรุงปราก ที่จะอธิบายถึงรายละเอียดของแต่ละอาคารแม้กระทั่งงานต่างๆที่ถูกจัดขึ้น เป้าหมายของการแสดงชุดนี้คือการดึงดูดให้ผู้ชมจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงภาพขนาดความสูงกว่า 2 เมตร พร้อมระบบเสียงมากกว่า 32 ช่องเสียง

เทคนิคที่ใช้

การแสดงภาพทำได้ไหลลื่นและกลมกลืนได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยเครื่องเลเซอร์โปรเจคเตอร์ของพานาโซนิค รุ่น PT-RZ660 จำนวน 38 เครื่องพร้อมติดตั้งเลนส์ Ultra-short รุ่น ET-DLE035 เพื่อป้องกันแสงสะท้อนที่มาจากผู้ชม รวมถึงช่วยลดปัญหาการรบกวนใดๆต่อการฉายภาพ

เครื่องคอมพิวเตอร์ Intel NUC จำนวน 19 เครื่อง จะถูกใช้ควบคุมเครื่องโปรเจคเตอร์ (1 เครื่องสำหรับควบคุมทุกๆ 2 โปรเจคเตอร์) และเครื่องควบคุม Intel NUC อีกหนึ่งเครื่องเพื่อให้มั่นใจว่าการฉายภาพทำได้อย่างราบรื่นและสมบูรณ์แบบมากที่สุด

ข้อมูลเฉพาะ

AVT Group ออกแบบระบบจุดยึดโปรเจคเตอร์พร้อมกล่องเฉพาะที่ช่วยลดการสั่นสะเทือนจากการจราจรบนถนนเหนืออุโมงค์ทางเดิน พร้อมกับปรับตั้งค่าต่างๆที่มีความซับซ้อนอันจะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการฉายภาพในสภาพแวดล้อมลักษณะนี้ โดยจัดให้มีการทดลองใช้ระบบทั้งหมดในพื้นที่บริเวณอื่นก่อนการติดตั้งจริง เพื่อทดสอบความสัมพันธ์ในการทำงานอย่างสมบูรณ์แบบของอุปกรณ์ทุกชิ้น

ระบบเสียง

ระบบเสียงที่ดีจะช่วยส่งเสริมการแสดงให้ผู้ชมได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น ดังนั้นระบบเสียงจึงต้องมีคุณสมบัติที่สามารถปรับแต่งให้เข้ากันกับภาพที่แสดงบนจอได้ เพื่อให้มั่นใจว่าทั้งภาพและเสียงสามารถทำงานสอดคล้องร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์ได้ติดตั้งลำโพง Bose รุ่น RMU105 จำนวน 32 ตัว และแต่ละตัวจะมีช่องสัญญาณแอมพลิฟายเออร์ของตัวเอง (PowerMatch 8250 แบบ 8 ช่องสัญญาณ จำนวน 4 ชิ้น)

อุปกรณ์ทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างอิสระในส่วนของตัวเอง ถึงแม้ลำโพงจะมีขนาดกระทัดรัด (จำเป็นต่อการติดตั้งตามแนวคานของเพดาน) แต่ก็มีกำลังมากพอที่จะสร้างพลังเสียงและปลุกเร้าผู้ชมให้เข้าถึงบรรยากาศของการแสดงได้เป็นอย่างดี