การฉายภาพภายในวิหารแห่งบรูเนลโล สถานที่ที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ ใจกลางเมือง Montalcino

Opera Laboratoi สร้างศิลปะแบบจัดวาง ในชื่อ L'Oro di Montalcino เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเชิดชูสมบัติแห่ง Montalcino

ไฮไลท์ของงานคือการฉายภาพในห้อง Sala Calix หนึ่งในห้องใต้ดินของวิหารบรูเนลโล ชื่อของห้องใต้ดินนี้ได้มาจากลักษณะของห้องที่ล้อมรอบไปด้วยผนังหิน และมีซุ้มประตูกำแพงหินโค้งปลายแหลม ชวนให้ผู้เข้าชมได้รู้สึกว่าตัวเองกำลังดำดิ่งลึกลงไปใต้ผืนดินของ Montalcino และที่ห้องนี้ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสกับบรรดางานศิลปะที่สวยงามที่เคยถูกสร้างขึ้นที่ Montalcino และ Siena โดยถ่ายทอดผ่านทางการฉาย Video mapping ลงบนผนังหินรอบๆห้องพร้อมกับดนตรีที่ไพเราะ

Maddalena Sanfilippo กล่าวว่า "คติพจน์ของ Opera Laboratori คือ เราต้องทำงานศิลปะอย่างมีศิลปะ" ตัวอย่างงานใน portfolio ของเราคือ อาสนวิหาร Siena, พิพิธภัณฑ์ Pienza, อาสนวิหาร Arezzo เราทำงานนี้ด้วยความเป็นมืออาชีพและความเลื่อมใสในเอกลักษณ์ของพื้นที่แห่งนี้ เราจึงอุทิศการทำงานของเรานี้ให้แก่ L'Oro di Montalcino และ วิหารแห่งบรูเนลโล เราต้องการผลิตผลงานที่มีคุณภาพสูงให้สอดคล้องกับปรัชญาในการทำงานของเรา

การเยี่ยมชมวิหารนี้เริ่มต้นจากการเดินเข้าจากทางเข้าฝั่ง Sant'Agostino ใจกลางของเมือง Montalcino หลังจากนั้นจึงเดินผ่านโถงทางเดินสองแห่ง เข้ามาในโบสถ์ Sant' Agostino ที่เปิดอีกครั้งหลังจากการบูรณะที่ยาวนาน และกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งมนต์ขลังความศักดิ์สิทธิ์ และ พิพิธภัณฑ์ทางโบราณคดี ณ พื้นที่ใต้ดินถัดจากวิหารแห่งบรูเนลโล หลังจากนั้นก็จะพบกับ gallery ใต้ดิน ที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.2021 ถูกแบ่งออกเป็นสามโซนด้วยผนังหิน ในแต่ละโซนมีซุ้มประตูหินลักษณะถ้วยคว่ำ - อันเป็นที่มาของชื่อห้อง Calix room - และผนังในห้องนี้จะถูกฉายภาพงานศิลปะ masterpieces ชิ้นสำคัญๆของทั้งเมือง Montalcino และ Siena

Matteo Ventrell, CEO ของ ETT Spa อธิบายว่า "ความท้าทายที่ Opera Laboratori นำเสนอนั้นไม่ใช่เรื่องที่ทำง่ายๆเลย: อย่างแรกการติดตั้งอุปกรณ์ใดๆจะต้องไม่สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างที่ธรรมชาติสรรสร้างขึ้นอย่างมีศิลปะ ยิ่งไปกว่านั้นการที่ผู้ชมจะต้องเดินผ่านทางเดินที่แคบ การติดตั้งเครื่องโปรเจคเตอร์บนพื้นจึงเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคิดจะทำได้ แต่ในขณะเดียวกันโครงสร้างเพดานของชั้นใต้ดินขณะนั้นไม่แข็งแรงพอที่จะให้เรานำเครื่องโปรเจคเตอร์ขึ้นไปติดได้ด้วย อย่างแรกที่เราคิดคือ เราจะสร้างคานขนาดเบาไปติดตั้งบนเพดานได้อย่างไรเพื่อจะติดตั้งเครื่องโปรเจคเตอร์ได้

Matteo Ventrell เล่าว่า "แต่ปัญหาหลักเลยคือ โครงสร้างทางธรณีวิทยาของชั้นใต้ดินนี้ มีผนังที่กั้นพื้นที่เป็นสามโซน และแต่ละผนังที่กว้าง 8 เมตร ก็มีความสูงเพียงแค่ 2 เมตร

"เราใช้โปรเจคเตอร์พานาโซนิค รุ่น PT-RZ690 จำนวน 6 เครื่อง พร้อมติดตั้งเลนส์ฉายภาพระยะใกล้ ultra short รุ่น ET-DLE035 และกระจกฉายภาพด้านหลัง โดยจะมีโปรเจคเตอร์ 2 เครื่องติดตั้งข้างๆซุ้มประตูหินทั้งสามซุ้มของแต่ละห้อง ซึ่งการติดตั้งลักษณะนี้ ทำให้เราไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวเครื่องโปรเจคเตอร์ เนื่องจากเป็นพื้นที่มืดและอยู่ตำแหน่งด้านหลังของผู้ชมขณะที่กำลังฉายภาพเข้าสู่ผนังพอดี การฉายภาพทำออกมาได้สมบูรณ์ อีกทั้งเทคโนโลยี DLP ก็สามารถทำหน้าที่ได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด ด้วยการให้ภาพที่มีความคมชัด และแสงสีก็สมจริง แม้พื้นผิวที่ฉายภาพจะเป็นผนังที่เต็มไปด้วยหิน ซึ่งจริงๆแล้ว ผนังหินกลับช่วยส่งเสริมบรรยากาศให้ดียิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้ ด้านหน้าของห้องก็จะมีเซนเซอร์จับความเคลื่อนไหวเพื่อให้ภาพฉายขึ้นทันทีเมื่อมีผู้ชมก้าวเข้ามาในห้อง