ดื่มด่ำกับอิสรภาพแห่งศิลป์ ผ่านการฉายภาพเสมือนจริงไปกับ Frameless

เมื่อตอนที่ทีมงานของ Frameless ทีมผู้จัดงานศิลปะแบบดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร กำลังวางแผนโครงการ "set art free" (ปลดปล่อยศิลปะให้เป็นอิสระ) ณ พื้นที่กว่า 30,000 ตารางฟุตบนถนน Marble Arch พวกเขารู้ดีว่า การเลือกโปรเจคเตอร์ที่มีเทคโนโลยีที่เหมาะสมเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดสำหรับงานนี้

ความท้าทายของเราคือการสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมทุกๆ วัย ทาง Frameless ใช้เครื่องโปรเจคเตอร์ที่ทันสมัยที่สุดจำนวนกว่า 50 เครื่อง เพื่อยกระดับการนำเสนองานศิลปะพร้อมๆกับการบรรเลงดนตรีร่วมสมัยผ่านลำโพงกว่า 158 ตัว

หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี Simon Kentish กล่าวว่า "โครงการนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของภาพที่สามารถนำเสนอออกมาให้แก่ผู้ชม"

Frameless ร่วมมือกับพันธมิตร และ ผู้จัดการแสดงสด และ Creative Technology ผู้เชี่ยวชาญการจัดแสดง เพื่อทำการทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องโปรเจคเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุดในตลาด โดยจัดให้มีการแข่งขันเปรียบเทียบเครื่องโปรเจคเตอร์จากผู้ผลิตชั้นนำในตลาดจำนวน 3 ราย

Simon อธิบายว่า "หลังจากที่เราได้ทดสอบเครื่องโปรเจคเตอร์ 3-Chip DLP เราจึงได้รู้ว่าพวกเขาคือผู้นำในด้านคุณภาพของการฉายภาพอย่างแท้จริง"  

เทคโนโลยี pixel-qudrupling ของพานาโซนิค ในเครื่องโปรเจคเตอร์รุ่น RQ22K และ RQ35K สามารถสร้างภาพ 4K+ ที่ความสว่างถึง 20,000-30,500 lumens ได้อย่างน่าทึ่ง การฉายภาพของเครื่องสามารถทำงานได้อย่างกลมกลืนในเรื่องของคุณภาพแสงและสี จนทำให้การนำเสนอภาพนั้นราบรื่นและไม่ทำให้อารมณ์ระหว่างการรับชมสะดุดเลย

อีกประการหนึ่งที่สำคัญคือความทนทานของตัวเครื่อง เนื่องจากระยะเวลาที่จำกัด ตัวสถานที่ใช้ระยะเวลาในการสร้างเพียงปีกว่าๆ เท่านั้น เราจำเป็นต้องนำอุปกรณ์มาติดตั้งทั้งๆที่ ห้องยังคงเต็มไปด้วยฝุ่นจากงานก่อสร้าง ยิ่งไปกว่านั้น การแสดงนี้จะต้องมีทุกวัน เนื่องจากสถานที่จัดงานอยู่ในบริเวณพื้นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในกรุงลอนดอน ด้วยการออกแบบระบบป้องกันฝุ่นแบบไร้แผ่นกรอง ที่ทำงานร่วมกันกับระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ จึงสามารถวางใจว่า เครื่องโปรเจคเตอร์ของพานาโซนิคสามารถทำงานได้มากกว่า 20,000 ชั่วโมง โดยไม่ต้องบำรุงรักษาใดๆ

นอกจากนี้ ที่ Frameless เรายังใช้โปรเจคเตอร์พานาโซนิค MZ16 series ในการนำเสนอภาพที่คุณภาพสียอดเยี่ยม สว่าง และอายุการใช้งานที่ยาวนาน ที่ ความสว่าง 10,000 lm (MZ10k), 13,000lm (MZ13k), และ 16,000lm (MZ16k) อีกด้วย เทคโนโลยี 3LCD สามารถให้ภาพขนาด HD ที่มีคุณภาพ มาพร้อมระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว และ แผ่นปิดกันฝุ่นเฟืองทองแดง เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน

การจัดแสดงศิลปะรูปแบบใหม่

เราใช้โปรเจคเตอร์พานาโซนิคจำนวน 50 เครื่อง ในการสร้างแอปพลิเคชันที่ล้ำสมัยในการฉายภาพครั้งนี้ จึงทำให้ได้ภาพที่มีความละเอียด 479 ล้านพิกเซล และความสว่าง 1 ล้านลูเมน พื้นที่ห้องจัดแสดงงานทั้ง 4 ห้อง รวมถึงบางส่วนของห้องที่ 5 ใช้สำหรับทำกิจกรรมองค์กร และทางด้านการศึกษา ซึ่งมีการฉายภาพในเลย์เอาท์และภายใต้แนวคิดที่แตกต่างกันไป งานศิลปะจะแทรกซึมไปในทุกตารางนิ้วของพื้นที่ ผู้เข้าชมจะไม่ได้เพียงแค่ยืนมองดูภาพเฉยๆ แต่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพที่แสดง ซึ่งรายล้อมไปด้วยรอยแปรงพู่กัน แต้มสีที่ถูกระบาย รวมถึงแรงบันดาลใจที่จะโอบล้อมผู้ชมเอาไว้

ในโซนของ The Art of Abstraction (ศิลปะที่เป็นนามธรรม) นั้นจะถูกนำเสนอด้วยการฉายภาพลงบนจอภาพลักษณะตาข่ายกึ่งโปร่งแสงในห้องมืด ให้อารมณ์เหมือนอยู่ท่ามกลางเขาวงกต ทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะของศิลปินชื่อดังเช่น Kandisky, Klimt, Mondrian, Malevich

การแสดงชุด Colour in Motion ใช้การฉายภาพ และสีสัน ในการทำให้รอยตวัดพู่กันจากงานมาสเตอร์พีซของ Monet, Van Gogh, Signac, Delaunay และ Morisot กลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง รอยตวัดพู่กันและรอยระบายสีจะปรากฎบนกำแพงตลอดแนวทางเดินทุกย่างก้าวของผู้เข้าชมงาน ช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ชมกับพื้นที่แห่งศิลปะในทั่วทุกมุมห้อง

การแสดงชุด The World Around Us เป็นชุดที่ต้องใช้เทคโนโลยีมาช่วยอย่างมาก เพื่อที่จะสร้างศิลปะทั้ง landscapes, cityscapes, และ seasacpe ของศิลปินชื่อดังอย่าง Canaletto, Cezanne, Monet, Rembarndt และ Ruysch บนผนังและเพดานทั้ง 6 ด้าน

และในห้องสุดท้ายนั้นจะถูกติดตั้งกระจกเงาเต็มพื้นที่ แม้กระทั่งตัวโปรเจคเตอร์เองก็ถูกหุ้มด้วยกระจก เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมแห่งจินตนาการภายใต้งานชื่อ Beyond Reality ที่นี่บรรดาผู้เข้าชมงานจะได้สัมผัสถึงประสบการณ์ของงานศิลปะที่มีชื่อเสียงของ Munch, Bosch, Dali, Klimt, Rousseau และ Erns
t

ประสบการณ์ใหม่จาก UST lenses

ประสบการณ์ที่น่าเหลือเชื่อนี้ถูกสรรสร้างขึ้นได้ด้วย เลนส์ Ultra Short Throw (UST) ของพานาโซนิค ที่ถูกติดตั้งในพื้นที่จัดแสดงจำนวนกว่า 80% ของเครื่องโปรเจคเตอร์ภายในงาน เลนส์พิเศษนี้ช่วยให้ตัวเครื่องสามารถซ่อนบนเพดาน แต่ยังคงสามารถฉายภาพในองศาที่ดี และแสดงภาพที่ตระการตาให้กับผู้ชมได้โดยไม่มีเงามาบดบังภาพที่ฉาย

Simon กล่าวว่า "ทีมงานได้ใช้เครื่องโปรเจคเตอร์อย่างเต็มประสิทธิภาพ และด้วยการนำ UST เลนส์มามาประกอบด้วยแล้วนั้น จึงสามารถสร้างประสบการณ์ให้ผู้ชมได้ดื่มด่ำกับศิลปะแม้จะต้องฉายบนกำแพงสูงถึง 9 เมตรหรือในพื้นที่สุดท้าทายอื่นๆก็ทำได้อย่างประทับใจ" "บางพื้นที่เราเคยคิดว่าการติดตั้งเครื่องโปรเจคเตอร์จะต้องทำให้มีเงามาบดบังภาพ แต่มันก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยและภาพที่ฉายออกมาก็มีคุณภาพที่สุดยอดอีกด้วย"

ความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่าง Frameless และ พันธมิตรนั้นเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ Simon อธิบายเพิ่มเติมว่า "คุณจะไม่มีวันสร้างสิ่งที่ท้ายทายและสร้างสรรค์ได้เลย ถ้าไม่ได้พบกับปัญหาระหว่างทาง" "แต่ทีมงานของเราสุดยอดมาก เราพยายามเค้นประสิทธิภาพของเทคโนโลยีโปรเจคเตอร์ให้ออกมาได้มากที่สุด และ โปรเจคเตอร์ของพานาโซนิคก็ตอบสนองเราได้ทุกมิติ อีกทั้งยังช่วยส่งทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นมาช่วยเหลือพวกเราด้วย

ในวันนี้ Frameless ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในลอนดอน "สำหรับผมแล้ว มันไม่มีอะไรที่ผมจะมีความสุขมากไปกว่าการได้ยืนอยู่บริเวณทางเข้าของแกลอรี่ และคอยมองดูบรรดาผู้คนที่รักในศิลปะ เหล่าคุณพ่อคุณแม่ที่พาเด็กๆเข้ามาชม และได้เห็นผู้คนเหล่านี้ชื่นชอบและตื่นเต้นไปกับประสบการณ์ที่ได้รับจากห้องนี้ การได้เห็นความสุขที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของพวกเขามันยอดเยี่ยมมาก และนั่นก็มาจากการผสมผสานกันอย่างลงตัวของ ศิลปะ ทีมงาน การแสดงภาพและเสียงที่ทำให้เกิดประสบการณ์สุดยอดแบบนี้ขึ้นได้